ลา ลีกา จะยังคงเป็นลีกใหญ่ของยุโรปเพียงลีกเดียวที่ไม่มี ‘เทคโนโลยีโกลไลน์’ โดยที่ ฆาเบียร์ เตบาส ประธานลีก มองว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ใช้งบประมาณสูงเกินไป
ลีกชั้นนำอื่น ๆ ของยุโรปทั้ง 4 ลีก (บุนเดสลีกา, พรีเมียร์ลีก, เซเรียอา และ ลีกเอิง) ต่างใช้เทคโนโลยีโกลไลน์กันหมด เช่นเดียวกับ เอเรดิวิซี่ และ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ
ลีกสูงสุดอังกฤษเป็นชาติแรกที่นำเข้าเทคโนโลยีนี้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว (ส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากประตูที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยิงใส่ เยอรมนี แต่กลับไม่เป็นประตูในศึกฟุตบอลโลก 2010) โดยลีกใน เยอรมนี, ฝรั่งเศส, อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ ใช้ตามกันในปี 2015
การทำงานของเทคโนโลยีดังกล่าวใช้กล้องหลายตัววางรอบ ๆ ประตู ซึ่งจะตรวจจับว่าลูกบอลข้ามเส้นหรือไม่ และแจ้งให้ผู้ตัดสินทราบผ่านนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์
สเปน ดูเหมือนจะไม่มีเทคโนโลยีนี้ใช้อีกฤดูกาล โดย El Larguero รายงานว่า เตบาส ไม่ต้องการจ่ายเงิน 2.6 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นงบสำหรับการใช้โกล์ไลน์
เกมล่าสุดที่ แอตเลติโก้ มาดริด บุกเสมอกับ เอสปันญ่อล 3-3 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีจังหวะประตูปัญหาเช่นกัน ซึ่งเน้นย้ำว่าเทคโนโลยีนี้มีประโยชน์เพียงใด
มันไม่ชัดเจนว่าประตูที่สองของ แอตฯ มาดริด ที่ยิงโดย อองตวน กรีซมันน์ ข้ามเส้นไปแล้วหรือยัง โดยที่จังหวะนี้มีการเรียกใช้ VAR ตรวจสอบ ก่อนยืนยันว่าเป็นประตู
เอสปันญ่อล กลับมาตีเสมอ 3-3 ได้อย่างน่าทึ่ง แต่หากประตูของ กรีซมันน์ ไม่ข้ามเส้นจริง อาจทำให้ทัพนกแก้วคว้า 3 แต้มแล้ว
หลังจบเกม เอสปันญ่อล ออกแถลงการณ์ ซึ่งเรียกร้องให้ผลการแข่งขันเป็น ‘โมฆะ’ อันเป็นผลมาจากประตูปัญหาของ กรีซมันน์
ติดตามข่าวสารอื่นๆเพิ่มเติมที่ >>> ข่าวลิเวอร์พูลล่าสุด
Facebook Fanpage : THE KOP THAILAND